ข่าวกีฬา

ข่าวกีฬา แนวรุกแย่แนวรับยวบ ! ผ่า 5 ประเด็น แมนยู แพ้ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์

ข่าวกีฬา โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ ต้องกลับมายืนอยู่บนปากเหวอีกครั้ง หลังนำทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไปแพ้ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ 1-2 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช เมื่อวันพุธที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ข่าวกีฬา

ข่าวกีฬา เกมนี้ “น้าลูกอม” มีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายตำแหน่ง แต่ชื่อชั้นของพวกเขายังคงเหนือกว่าเจ้าบ้าน แต่กลายเป็นว่าพอลงสนามจริงๆ “ผีแดง” ทำผลงานได้น่าผิดหวังมากๆ เมื่อพวกเขาต้องโดน บาซัคเซเฮียร์ ขึ้นนำไปก่อน 2-0 ก่อนที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล จะมายิงตีไข่แตก ขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือทีมเยือนครองเกมได้มากกว่าแต่ทำอะไรไม่ได้ ส่งผลให้พวกเขาแพ้อย่างน่าจับปวดที่สุด

ฉะนั้นในเกมพรีเมียร์ลีก ที่ต้องออกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน วันเสาร์นี้ โซลชา ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนำทีมคว้า 3 แต้มให้ได้ เพื่อที่จะนำ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาอยู่ในจุดที่เหมาะสม และเพื่อโอกาสในการทำงานของเขากับทีมรักต่อไป

1. เกมรับย่ำแย่ขาดประสิทธิภาพ

ย้อนกลับไปในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 แมตช์ก่อนหน้านี้ กองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับคำชื่นชมอย่างมากในการรับมือเกมรุกของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งมีผลทำให้ทัพ “ปีศาจแดง” เก็บชัยชนะอย่างสวยงามทั้ง 2 แมตช์

อย่างไรก็ตามในเกมเยือน บาซัคเซเฮียร์ แนวรับที่แน่นอนกลับเปลี่ยนสภาพเป็นไม่แน่นอน โดยเฉพาะในจังหวะที่ “ปีศาจแดง” เสียประตูแรกในช่วงนาทีที่ 12 ใครจะไปเชื่อว่ากองหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะหายเกลี้ยงปล่อยให้ เดมบ้า บา มีโอกาสวิ่งหลุดเดี่ยวเข้าไปส่องประตูได้สบายๆ

ในจังหวะนั้น เนมานย่า มาติช เป็นนักเตะคนสุดท้ายที่อยู่บริเวณครึ่งสนาม ที่จะต้องวิ่งไล่ตาม หัวหอกวัย 35 ปี และเขาก็ไม่ได้มีความเร็วมากพอที่จะไล่บี้กดดัน บา จนในที่สุด หัวหอกชาวเซเนกัล ก็มีโอกาสได้จัดการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จ แล้วคู่เซนเตอร์แบ็กหายไปไหน ? นี่เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย

ต้องบอกว่านี่คือความผิดพลาดจากการขาดระบบการเล่นที่เหมาะสม โดย โซลชา เลือกใช้แผงมิดฟิลด์กับกองหลังใหม่ เมื่อเขาจับ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เล่นร่วมกันครั้งแรกในปี 2020 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ “กัปตันแม็ก” กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ จับคู่เซนเตอร์แบ็ก และทำผลงานดีพอสมควร

กระนั้นการที่ “น้าลูกอม” จับ ตวนเซเบ้ เล่นกับ แม็กไกวร์ ถือว่าน่าผิดหวังในช่วงแรก แต่หลังจากที่เสีย 2 ประตูไปแล้ว ทั้งคู่สามารถควมคุมเกมบุกของเจ้าบ้านได้อย่างดีเยี่ยม แต่หากมองอีกมุมก็เป็นไปได้ที่ บาซัคเซเฮียร์ ไม่สนใจเล่นเกมบุกมากนัก และพยายามเน้นผลการแข่งขัน ทำให้คู่เซนเตอร์ “ผีแดง” ไม่ต้องทำงานหนัก

 2. ห้ามประมาททีมที่มีชื่อชั้นต่ำกว่า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกคาดการณ์ว่าจะสามารถบุกมาเก็บชัยชนะถึงดินแดนไก่งวงได้ หลังจากที่พวกเขาโชว์ฟอร์มเลิศหรูอลังการในการหักปากกาเซียนปราบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถึงประเทศฝรั่งเศส และไล่ต้อน ไลป์ซิก สบายเกือกในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

โซลชา เลือกที่จะใช้การโรเตชั่นทีม หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้น่าผิดหวังในเกมพรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่เปิดบ้านแพ้ อาร์เซน่อล โดยงานนี้ “น้าลูกอม” หวังที่จะเรียกศรัทธากลับคืนมาด้วยการที่จะบุกไปเอาชนะอิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ให้ได้

กระนั้น โซลชา คงลืมไปว่านี่คือเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ใช่ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่คู่แข่งห่างชั้นกัน เพราะทีมที่เล่นในถ้วยใบโตยุโรปมีมาตารฐานระดับสูง และสามารถระเบิดฟอร์มเก่งออกมาได้ตลอดเวลา ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้ขาดทั้งความกระตือรือร้นในการเล่น และการสร้างสรรค์เกมรุก

แน่นอนว่าการที่ โซลชา เลือกปรับเปลี่ยนผู้เล่นมากจนเกินไปโดยเหตุผลเพื่อที่จะเก็บนักเตะสำคัญเอาไว้สำหรับแมตช์ที่จะต้องไปเยือน เอฟเวอร์ตัน เกมลีกวันเสาร์นี้  และคิดว่า บาซัคเซเฮียร์ ไม่น่าจะมีพิษสงเนื่องจากพวกเขาแพ้มา 2 เกมรวดในรายการนี้ ถือเป็นไอเดียที่ผิดถนัด จนนำไปสู่ภัยพิบัติในเกมนี้

3. เกมบุกที่ไร้จินตนาการอย่างน่าใจหาย

การเห็นชื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ทำหน้าที่เป็นกองหน้าคอยปั่นป่วนเกมรับ บาซัคเซเฮียร์ แน่นอนว่าแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้สึกอุ่นใจมากๆ เนื่องจากศักยภาพของทั้งสองคนสามารถจัดการเกมรับทีมดังตุรกีได้อย่างไม่ยากเย็นนั้น

นอกจากนี้ยังมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่คอยทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์คอยสร้างโอกาสให้กับ แรชฟอร์ด และ มาร์กซิยาล รวมทั้งผู้เล่นแนวรุกคนอื่นๆ ที่สำคัญการเห็น “หนูแรช” กับ หัวหอกเลือดเฟร้นช์ เล่นด้วยกันน่าจะการันตีได้ทันทีว่า “ผีแดง” จะต้องทำประตูได้ชัวร์

อย่างไรก็ตามวันนี้ดูเหมือนไม่ใช่วันของ แมนฯ ยูไนเต็ด จริงๆ เพราะพวกเขามีโอกาสยิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในครึ่งแรก ขณะที่ ฆวน มาต้า กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากลงสนามไปได้ 60 นาที ก็สร้างสรรค์โอกาสได้แค่คนละครั้งเท่านั้น

ฉะนั้นนี่ถือเป็นผลงานที่ย่ำแย่อย่างมากสำหรับเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะหากมองจากรายชื่อทัพ “ปีศาจแดง” ต้องบอกว่าเหนือกว่า บาซัคเซเฮียร์ หลายเท่า แต่พวกเขากลับไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากการเปิดบอลจากริมเส้น แต่ขาดความแม่นยำ และไม่สามารถกดดันเกมรับเจ้าบ้านได้เลย

ยิ่งไปกว่านี้ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ยังเป็นการยุติผลงานชั้นยอดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เก็บชัยชนะนอกบ้านได้ยาวนานที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร (ชนะ 10 เกมติดต่อกัน) ที่สำคัญยังเป็นการแพ้เกมเยือนครั้งแรกจาก 19 แมตช์นับตั้งแต่ที่แพ้ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ ในเกมลีกเดือนมกราคมที่ผ่านมา

4. โซลชา ยังต้องใช้เวลาหา 11 ตัวจริงที่ดีที่สุด (จะมีเวลาพอหรือเปล่า)

ตั้งแต่เปิดฉากฤดูกาล 2020/2021 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พยายามที่จะหาสมดุลของทีมให้ได้ และดูเหมือนว่าเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก จะกลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่เขาจะได้ทดลองใช้ผู้เล่นหลายๆ คน เพื่อที่จะหา 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดเพื่อนำไปสู้ศึกใหญ่ในซีซั่นนี้

การที่เกมถ้วยใบโตยุโรป สามารถเปลี่ยนตัวได้ 5 คนซึ่งเป็นผลดีอย่างมากกับ โซลชา ในการที่จะใช้ระบบโรเตชั่น โดยในเกมกับ บาซัคเซเฮียร์ เขาเลือกเปลี่ยนนักเตะถึง 6 ราย จากเกมที่แพ้ อาร์เซน่อล เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการส่ง ดีน เฮนเดอร์สัน ลงสนามเปิดตัวในแชมเปี้ยนส์ ลีก

ตามด้วย ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค, อั๊กเซล ตวนเซเบ้, เนมานย่า มาติช และ ฆวน มาต้า ขณะที่ มาร์กซิยาล ก็เพิ่งได้กลับมาติดทีมตัวจริงในแมตช์นี้ ยิ่งไปกว่านั้น โซลชา ไม่ใช่แค่โรเตชั่นผู้เล่น แต่ยังมีการปรับระบบการเล่นด้วย โดยใช้แผน 4-2-3-1 ให้ ฟาน เดอ เบ็ค ยืนจับคู่มิดฟิลด์ตัวกลางกับ มาติช ตามด้วย บรูโน่ แฟร์นันด์ส,  มาต้า และ แรชฟอร์ด ที่คอยเป็นกำลังสนับสนุนให้ มาร์กซิยาล

แม้ว่าฟอร์มการเล่นในครึ่งแรกจะย่ำแย่เหลือเกิน ซึ่งทำให้ โซลชา ตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนทีมในช่วงพักครึ่ง ด้วยการส่ง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ตามด้วย ปอล ป็อกบา และ เอดินสัน คาวามนี่ ลงสนามซึ่งก็ได้ผลเพราะทำให้มาตรฐานการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดีขึ้นทันตาเห็น

การส่ง เมสัน กรีนวู้ด กับ ทิโธที โฟซู-เมนซาห์ ลงมาช่วยเกมบุกในช่วง 15 นาทีสุดท้ายทำให้ “ปีศาจแดง” สามารถไล่บี้ขยี้เจ้าบ้านจากแดนไก่งวงจนโงหัวไม่ขึ้น แต่น่าเสียดายที่พวกเขาขาดความเฉียบคม จึงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเกมบุกที่เหนือกว่าได้

5. วนลูปสไตล์โซลชา ระเบิดพลังแฝงเกม เอฟเวอร์ตัน ?

ตอนนี้ดูเหมือนว่าวัฎจักรเดิมๆ ของ โซลชา กลับมาอีกครั้งแล้ว หลังจากที่เจ้าตัวตกต้องอยู่ในสถานการณ์ 7 เกมอันตราย แต่สามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างสวยสดงดงาม แต่ก็มาสะดุดในเกมปะทะ อาร์เซน่อล และ บาซัคเซเฮียร์ ที่แพ้ในถ้วยใบโตยุโรป 2 เกมก่อนหน้านี้

สำหรับตอนนี้ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องกลับไปอังกฤษ เพื่อเตรียมทีมสำหรับเยือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นแมตช์ที่มีความหมายทั้งกับ “ปีศาจแดง” และ “น้าลูกอม” อย่างมาก เพราะหากทีมพลาดท่าให้กับทีมดังจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ อันดับในตารางลีกของพวกเขาอาจจะตกฮวบไปอยู่ในโซนอันตรายทันที

ในขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นการชี้ชะตาของ โซลชา อีกครั้ง หลังจากที่เขาเคยรอดจากช่วงเวลาแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ในฤดูกาลนี้คงไม่เหมือนกับซีซั่นที่ผ่านมา เพราะผลงานที่ดูแล้วไม่มีพัฒนาการ อาจทำให้บอร์ดบริหารเลือกที่จะหาหนทางใหม่มากกว่าการ “ปลุกปีศาจต้องใช้ปีศาจ” ในการนำ แมนฯ ยูฯ กลับสู่จุดที่ควรจะเป็น

กระนั้นก็ต้องอย่าลืมว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดกับ โซลชา มาแล้ว และทุกครั้งที่เขายืนอยู่บนปากเหว “น้าลูกอม” มักจะระเบิด “พลังแฝง” นำทีมรอดวิกฤติมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จากนั้นก็จุดประกายความหวังให้กับสาวก “เร้ด อาร์มี่” ที่จะได้เห็นโทรฟี่แชมป์กลับมาประดับในตู้โชว์ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

อย่างไรก็ตามหาก แมนฯ ยูฯ แพ้ เอฟเวอร์ตัน งานนี้บอร์ดบริหารคงใช้เวลาพักเบรกทีมชาติทำการติดต่อกุนซือคนใหม่ และดีไม่ดีพวกเขาคงกำลังหาเบอร์โทรศัพท์ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่  ที่เปิดปากชัดเจนว่าพร้อมรับงานกุมบังเหียนอีกครั้ง !!!

 

 

 

ขอบคุณข่าว : www.siamsport.co.th
สนใจสมัคร ติดต่อ : ufabetfree.com